 |
| |
| |
|
ถามสมาชิกสหกรณ์บ้าง |
|
Posted: โชติ เสือจำศิลป์
Date: 2013-01-31 15:05:44
|
| |
|
| |
สมัครเป็นสมาชิกที่ใด สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือดอกเบี้ยเงินกู้ สาเหตุเพราะสมาชิกร้อยละ 80-9ปกติสมาชิกสหกรณ์จะสอบถามสหกรณ์เกี่ยวกับเรื่อง กู้ ฝาก-ถอน ปันผล หรือ ดอกเบี้ยเงินกู้เป็นต้น ผมขอเรียนว่าสหกรณ์ทุกแห่งบริหารงานก็ด้วยประโยชน์ของสมาชิกทั้งสิ้น ส่วนสมาชิกจะเลือกใช้บริการในการ0 จะกู้เงินมากกว่าการออมทรัพย์(มีหนี้มากกว่าหุ้น)อีกทั้งจะได้ยินอยู่เสมอตำรวจที่สมัครสหกรณ์ต่างกันจะพูดกันว่าสหกรณ์ที่ตนสมัครอยู่ดีกว่าเช่นสหกรณ์นี้จ่ายเงินปันผลมากกว่า ส่วนสมาชิกอีกคนหนึ่งก็บอกว่าสหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิกมีดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่า เท่าที่ดูแล้วน่าจะเข้าตำราไก่หรือไข่อะไรเกิดก่อนกันเป็นอย่างนั้น ก็ขอถือโอกาสแนะนำว่าเราควรสมัครสมาชิกที่ใดดีโดยมีสิ่งที่ควรคำนึงถึง ดังนี้ 1.คำนึงถึงดอกเบี้ยเงินกู้เป็นอันดับแรก 2. การจ่ายเงินปันผลเป็นอันดับสอง 3.สิทธิประโยชน์อื่น ๆ 4.การค้ำประกันผู้ค้ำประกันกมากกว่าย่อมดีกว่า หากผู้กู้ ตาย ถูกไล่ออกปลดออก หรือหนีราชการ การมีผู้ค้ำหลายคนย่อมช่วยกระจายความเสียงคือแบกภาระน้อยกว่า
ตัวอย่างที่ 1 สมาชิกชื่อนาย ก มีเงินทุนเรือนหุ้น 200,000บาท ขอกู้เงินจำนวน 1,000,000บาท ผ่อนชำระหนี้ 160 งวด ต่อสหกรณ์ A อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.25ต่อปี สหกรณ์จ่ายเงินปันผลร้อยละ 6.25
ตัวอย่างที่ 2 สมาชิกชื่อนาย ข มีเงินทุนเรือนหุ้น 200,000บาท ขอกู้เงินจำนวน1,000,000บาท ผ่อนชำระหนี้ 160 งวด ต่อสหกรณ์ B อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.50ต่อปี
สหกรณ์จ่ายเงินปันผลร้อยละ 6.50
ถามว่าท่านควรสมัครสมาชิกสหกรณ์ A หรือ B
สมาชิกที่เลือกเป็นสหกรณ์ A(ตัวอย่างที่1)จะมีรายได้จากเงินปันผลตอนปลายปีร้อยละ6.25
200,000X6.25/100=12,500บาท ส่วนที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์ทุกๆเดือนจนกว่าจะครบสัญญา 160งวดในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ6.25ต่อปี จากเงินต้น1,000,000บาท สมาชิกจะจ่ายดอกเบี้ยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 415,856.25บาท
สมาชิกที่เลือกเป็นสหกรณ์ B(ตัวอย่างที่2)จะมีรายได้จากเงินปันผลตอนปลายปีร้อยละ6.50
200,000X6.50/100=13,000บาท ส่วนที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์ทุกๆ เดือนจนกว่าจะครบสัญญา 160 งวดในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ6.50ต่อปี จากเงินต้น1,000,000บาท
สมาชิกจะจ่ายดอกเบี้ยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 432,489บาท
สรุป สมาชิกสหกรณ์ A ได้รับเงินปันผล12,000บาท ในขณะที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้สหกรณ์415,865.25บาท เท่ากับจ่ายให้สหกรณ์(415,865.25-12,000บาท=403,865.25บาท
สมาชิกสหกรณ์ B ได้รับเงินปันผล13,000บาท ในขณะที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้สหกรณ์
432,489.00บาท เท่ากับจ่ายให้สหกรณ์(432,865.25-13,000บาท=419,489บาท
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า สมาชิกสหกรณ์ A จะประหยัดเงินมากกว่าสมาชิกสหกรณ์ B จำนวน 15,623.75บาท |
| |
| |
|
|
 |
|
 |
| |
| |
|
| โดย :ภานุเดช จูแสงพยับ 2013-02-01 12:28:43 |
|
|
| |
|
| |
ส่วนสมาชิกจะเลือกใช้บริการในการ จะกู้เงิน มากกว่าการออมทรัพย์(มีหนี้มากกว่าหุ้น)
ในส่วนของผมขอแสดงความเห็นต่าง ประเด็นนี้ดังต่อไปนี้
ผมเป็น คนชนบท พ่อแม่เป็นชาวนาที่ยากจน ส่งเสียให้ผมได้เรียนหนังสือ เพื่อจะได้มีอาชีพที่สร้างความมั่นคงแก่ตนเองและครอบครัว อาชีพราชการ จึงเป็นเป้าหมายของพ่อแม่ ที่หวังจะให้ บุตรได้เข้ารับราชการ ตำรวจคือ อาชีพราชการหนึ่ง สำหรับชายหนุ่มชาวบท ที่ต่างก็หวังจะเข้ามาสู่อาชีพราชการและผมเลือก อาชีพตำรวจโดยวาดหวัง ถึงความมั่นคง ของตนและครอบครัวเช่น ชาวชนบท คนหนึ่ง เช่นกันและก็สมหวัง จากความ วิริยะพากเพียร แม้จะเริ่มต้น จาก ระดับประทวนก็ตาม
ปี ๒๕๓๖ เริ่มต้นบรรจุราชการจากหลักสูตร นพต.ที่ รร.ภ.๓ ในระหว่างอบรม บิดาได้เสียชีวิตลงคงเหลือแต่มารดา ซึ่งผมก็ได้ดูแลอุปการคุณมารดามาตลอดตราบเท่าทุกวันนี้
ปี ๒๕๓๗ เสร็จสิ้นการอบรมได้รับ การบรรจุ ให้ดำรงตำแหน่ง ลูกแถว งาน ๑ กก.อป.บก.สปพ.ได้รับอัตราเงินเดือน ๔,๐๑๐ บาท และต่อมาจากนั้นประมาณ ๓ เดือน จึงได้สมัครเป็นสมาชิก สหกรณ์ฯ จนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลากว่า ๑๙ ปี
เงินเดือนหลังจากหักส่ง สหกรณ์ จึงเหลือเพียงประมาณ ๓,๖๐๐ กว่าบาท แน่นอนเพียงพอสำหรับการดำรงชีพอย่างสมเกียรติ แต่เพียงพอสำหรับผมคนเดียวเท่านั้น แต่ผมต้องอุปการะมารดาด้วยจึงไม่เพียงพอแน่นอน
อีกทั้งหน่วยงานที่ผมบรรจุ กำหนดเครื่องแบบ ให้แตกต่างจากหน่วยงานอื่นใน บช.น.ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่นี้จำเป็นต้องมีเครื่องแบบตามที่หน่วยงานกำหนด แต่ไม่มีงบให้ จึงต้องกู้สหกรณ์ฯ เพื่อตัดเครื่องแบบที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อกู้ก็ต้อง ใช้ทำให้ผมต้องรัดเข็มขัดตนเองมากยิ่งขึ้น
ปี ๒๕๓๘ จึงสมัครใจย้ายออกมาทำหน้าที่ สายตรวจงานป้องกันปราบปรามที่ สน.หนึ่งในสังกัด บก.น.๕ แต่ในการปฏิบัติหน้าที่ใหม่จำเป็นต้องมีอุกรณ์การตรวจ ปืน วิทยุสื่อสาร เครื่องพันธนาการ พาหนะในการเดินทาง มาเข้าเวร
(จยย.ซึ่งขณะนั้น สน.ไม่มีให้เบิกมากเช่นทุกวันนี้ ถามว่าจำเป็นไหม จำเป็นเพราะ สน.ไม่มีอาคารบ้านพักอิสระให้ อย่าว่าแต่อาคารบ้านพักเลยแม้ ตัว สน.ก็ต้องอาศัยพื้นที่สน.อื่นเป็นที่ทำการตราบเท่าทุกวันนี้ ดังนั้น ตำรวจที่นี่เมื่อกว่า ๑๙ปีที่ผมสมัครใจมาก็ต้องจ่ายค่าที่พักอาศัยเอง เบิกค่าเช่าไม่ได้เป็นส่วนมาก ยกเว้นย้ายจากนอกหน่วยเข้ามา ยื่นเรื่องขอเข้าพักอาศัย บ้านพักส่วนกลางปี ๒๕๔๑ เพิ่งจะได้รับอนุมัติ เมื่อ ๓ ปีที่แล้วแต่ก็ไกลจากที่ทำงานมาก ต้องแบกภาระเรื่องการเดินทางอีก)และเครื่องแบบใหม่อีก ซึ่งได้รับการเหลียวแลอย่างไม่เพียงพอ
หนี้เก่ายังไม่หมด ก็ต้องกู้ใหม่(ดินพอกหางหมู)เมื่อชำระได้ ๑ ใน ๕ ก็ต้อง กู้ใหม่ไปเรื่อย
เงินเดือนแม้จะเพิ่มขึ้นจริง หนี้ก็เพิ่มตาม เช่นกัน
ปี ๒๕๔๑ ก็ได้เพิ่มสมาชิกเข้ามาชีวิตอีก ๑ คือ คู่สมรสซึ่งเป็น คนชนบท และมีสถานภาพแนวคิดเช่นเดียวกับผม ก็ช่วยกันทำมาหากินประคับประคองอยู่ได้อย่างพอเพียงพักหนึ่ง ต่อมาอีก ๑ ปีได้เพิ่มสมาชิกคือ บุตรสาวคนแรก คู่สมรส ต้องออกจากงานเลี้ยงดูบุตรเองทำให้ผมต้องรับภาระมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่ง ทีผมไม่ยอมทำเด็ดขาด คือทำนอกกรอบของ ตร.แม้ชีวิตจะเป็นหนี้มากมายก็ตาม ผมก็สู้ชีวิต จนกระทั่งเริ่มดีขึ้น
จึงได้ ศึกษาต่อระดับปริญญาโดยทุนของตน จนสำเร็จ เพื่อความก้าวหน้าในการรับราชการ แต่ก็ยังไม่สามารถสอบเลื่อนชั้นได้อีก ต่อมาอีก ๗ ปีได้เพิ่มสมาชิกเข้ามาชีวิตอีก ๑ คือ บุตรคนที่ ๒ ภาระก็เพิ่มขึ้นตามอีก จนกระทั่ง ผมเองสามารถ สอบเลื่อนชั้นได้ ตั้งแต่ ๑๙ มีนาคม ปี ๒๕๕๕ อยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ บุตรคนโตก็เข้าเรียนต่อ ม.๑ คนเล็กก็เข้าอนุบาล ๑ ส่วนตัวผมก็เข้าอบรม ทุนทรัพย์ไม่มีก็ต้อง ประสบวิกฤติอย่างหนัก ต้องกู้อีกเช่นเดิม
ผมหวังว่า สักวันชีวิตหนี้ต้องหมดไปให้ได้ก่อนเกษียณ ราชการ(เหลืออายุราชการประมาณ ๑๕ ปี ตอนนี้ ยศ ร.ต.ต.บรรจุจากหลักสูตร กอน.ปป (ผู้มีวุฒิปริญญา)เม.ย.น่าจะได้ประดับ ยศ ร.ต.ท )ผมจะยึดมั่นและปฏิบัติในกรอบ ที่ดีของ ตร.ต่อไป
ขอบคุณครับ
|
|
|
 |
 |
 |
|
|
|
| |
| |
|
| โดย :ภานุเดช จูแสงพยับ 2013-02-07 16:50:49 |
|
|
| |
|
| |
จากการกระผมที่ได้เข้าประชุมรับฟังและแสดงความเห็น พร้อมด้วยสมาชิกหลายๆๆท่าน
จึงขอขอบพระคุณ ท่านประธานและคณะกรรมการที่ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับ
ปัญหาและความเดือดร้อนของสมาชิก มา ณ โอกาส นี้ครับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
| |
|
| โดย :โชติ เสือจำศิลป์ 2013-02-07 18:17:38 |
|
|
| |
|
| |
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่แสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ปัญหาต่าง ๆ ที่สมาชิกเดือดร้อนฝ่ายจัดการได้นำเสนอคณะกรรมการฯ พิ่จารณา และในโอกาสต่อไปจะมีสิ่งดี ๆ สำหรับสมาชิกให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว โดยจะทำแบบสอบถามสมาชิกใน 2 เรื่อง ได้แก่ การจัดทำบัตร ATM และเรื่องการทำประกันชีวิตของผู้กู้ |
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
| |
|
