จัดหาบริษัทประกันภัยในวงเงินกู้ของสมาชิก
Posted: เมธิชัย อัครพงศ์พาณิชย์ Date: 2013-01-12 08:28:49
   
  เรียนท่านประธาน คณะกรรมการ และสมาชิก สอ.บช.น.ทุกท่าน กระผมขอเสนอแนวก้าวมิติใหม่ให้ทุกท่านพิจารณา ดัีงต่อไปนี้ อยากให้ทางสหกรณ์ฯ จัดหาช่องทางเจรจากับบริษัทประกันภัยทั้งหลาย บริษัทไหนจะมารับประกันจนสิ้นงบวงเงินกู้ของสมาชิก สอ.บช.น. และแต่ละบริษัทกำหนดเพดานวงเิงินประกัน ให้สอดคล้องกับวงเงินกู้ เพื่อประกวดสู้ราคากันต่อไป ทั้งนี้กระผมคิดว่าสมาชิกทุกท่านจะได้ประโยชน์กับบริษัืทประกันฯ ในทางบวกไม่มากก็น้อย ประกอบกับผู้กู้และผู้ค้ำจะได้สบายใจ ทั้งนี้ต้องมีเงื่อนไขการปฏิบัติดังนี้ 1.ภาคบังคับทุกคนที่เรื่องยื่นกู้ 2.ภาคสมัครใจ 3.ภาคอิสระตามใจชอบ ตามเงื่อนไขข้างบนนี้ค่าใช้จ่ายบริษัทประกันฯ สามารถหักจากวงเงินกู้ของผู้กู้ และผู้กู้ต้องยินดียอมจ่ายเอง ในส่วนตัวกระผมคิดว่ามีผลดีมากกว่าผลเสียนะคร๊าบ ให้ท่านสมาชิกช่วยกันพิจารณาด้วยนะคร๊าบ
 
 

   
 
 
ความคิดเห็นที่ 1  
โดย :โชติ เสือจำศิลป์  2013-01-14 15:16:58
 
 
  ขอขอบคุณสมาชิกที่ได้ให้ความสนใจ และให้ข้อเสนอแนะรวมถึงข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินงานของสหกรณ์ ครับ สำหรับกรณีนี้ ทางสหกรณ์ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาหลักเกณฑ์ของการค้ำประกันเงินกู้สามัญโดยเฉพาะ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลรายละเอียดจากบริษัทประกันต่างๆ จำนวน 4- 5 บริษัทชั้นนำ(ขอสงวนชื่อบริษัท) พบว่า บริษัทประกันจะประกันชีวิตกรณีผู้กู้เสียชีวิตเท่านั้น ส่วนกรณีผู้กู้ถูกไล่ออก ปลดออก หนีราชการ จะมีบางบริษัทจ่ายสินไหมทดแทนกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ (ยกเว้นกรณีฆ่าตัวตาย) แต่ทั้งนี้สมาชิกยังต้องเสียเงินเบี้ยประกันให้กับบริษัทประมาณ50,000 - 70,000 บาท ต่อหนี้ 1,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุสมาชิกผู้กู้ด้วย ในส่วนของการประกันชีวิตแบบกลุ่ม สหกรณ์จะต้องจ่ายเบี้ยประกันให้กับบริษัท ปีละ 8-10 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทประกันจะไม่คุ้มครองสมาชิก ในกรณีที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และในกรณีที่ผู้กู้ได้ลาออกจากสหกรณ์หรือออกจากราชการโดยมีความผิด และจากความเห็นของคณะทำงาน เห็นว่า เงื่อนไขดังกล่าว ยังไม่ส่งผลดีและครอบคลุมต่อสมาชิกเท่าที่ควร ขณะที่สหกรณ์ให้สิทธิประโยชน์ของสมาชิกตำรวจนครบาลมากกว่า โดยมีทุนสาธารณประโยชน์เพื่อแบ่งเบาภาระสมาชิกไว้เป็นเงิน 18.50 ล้านบาท โดยจ่ายให้กรณีบาดเจ็บในหน้าที่และถึงแก่กรรมธรรมดา หากเป็นการถึงแก่กรรมในหน้าที่ก็จะได้รับมากที่สุดตั้งแต่ 7,500-350,000 บาท อีกทั้งได้กำหนดระเบียบสหกรณ์ว่าด้วยกองทุนคุ้มครองหนี้สิน เพื่อช่วยผู้ค้ำประกันในทุกกรณี โดยได้ตั้งกองทุนเริ่มต้นปี 2556 ไว้จำนวน 6,000,000 บาท ซึ่งปีต่อๆไปก็จะได้จัดตั้งเงินกองทุนให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 2  
โดย :โสภณ สุริยะ  2013-01-16 15:27:32
 
 
  ถ้าเป็นอย่างที่ท่านชี้แจงมาก็ดีครับเพราะสมาชิกบางท่าน(ผู้ค้ำประกัน)ถ้าผู้กู้เสียชีวิตหรือออกจากราชการไปต้องมารับผิดชอบวงเงินกู้(หาร3)ถ้าผู้กู้เป็นหนี้เยอะผู้ค้ำก็ต้องมาแบกรับภาระหนี้แทนหนักเอาการ โดยเฉพาะผู้ค้ำที่มีเงินเดือนน้อยลำบากแน่ หากเป็นไปตามที่ท่านกล่าวมาก็จะดีมากครับ มีกองทุนไว้ช่วยเหลือผู้ค้ำประกัน
 
   
 
 
ความคิดเห็นที่ 3  
โดย :เมธิชัย อัครพงศ์พาณิชย์  2013-01-17 10:31:33
 
 
 
 
 
   
 
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
 
ทะเบียน:
รหัสผ่าน: